- เผยแพร่ : 30/01/2023 13:09
วันที่ 30 ม.ค.66.-นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตามที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้มอบหมายให้ตนดูแลการเลือกตั้งและวางตัวผู้สมัครในพื้นที่ภาคกลาง รวมถึง จ.ตาก และประจวบคีรีขันธ์ อีก 2 จังหวัดนั้น โดยพลเอกประวิตร ได้กำชับทุกคนต้องทำงานอย่างหนัก ขอให้ผู้สมัครลงพื้นที่ให้ครบทุกหลังคาเรือน โดยเน้นให้พบกับประชาชนด้วยตัวเอง นำนโยบายของพรรคไปถึงพี่น้องประชาชน ยึดแนวทาง ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่ โดยได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครไปแล้ว 350 คน และจะทยอยเปิดให้ต่อเนื่องให้ครบทุกเขตเลือกตั้ง คาดว่าจะส่งให้ครบ 400 คน ทุกจังหวัด
นายชัยวุฒิ ระบุว่า ช่วงที่ผ่านมา ตนตั้งใจทำงานลงพื้นที่ทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางที่หัวหน้าพรรคมอบหมาย พ่วงจ.ตากและประจวบคีรีขันธ์เพิ่มมาด้วย ซึ่งได้ทยอยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครอย่างต่อเนื่อง เช่น จ.ปทุมธานี
นายเสวก ประเสริฐสุข ว่าที่ผู้สมัคร เขต 1 นายนพดล ลัดดาแย้ม เขต 2
นายยุทธวัฒน์ หาญเกียรติกล้า ว่าที่ผู้สมัคร เขต 3 นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง ว่าที่ผู้สมัคร เขต 4 นายปรีชา ชื่นชนกพิบูล ว่าที่ผู้สมัคร เขต 5 นายวิรัช พยุงวงษ์ ว่าที่ผู้สมัคร เขต 6 และ นางสาวกฤษณา วงศ์คำ ว่าที่ผู้สมัคร เขต 7
ขณะที่จ.ลพบุรี เปิดตัวไปแล้วครบทั้ง 4 เขต โดยเขต 1 พอ.สุชาติ คัดสูงเนิน,
เขต 2 นายณฐพงศ์ นรสิงห์,
เขต 3 นายไสว วงศ์ศรี และเขต 4 นายสนั่น พรหมสุข
ส่วนที่จ.ตาก เขต 1 ส่งนายประสงค์ นามเสถียร เขต 2 พ.ต.ท.อนุรักษ์ จิรจิตร ตำแหน่งประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ส่งลงสมัคร ส.ส.ตาก เขต 2 (อ.อุ้มผาง-พบพระ เป็นหลัก) และเขต 3 นายชิงชัย ก่อประภากิจ
หรือ “นายกเคี้ยง” อดีตแชมป์ 3 สมัย อดีตนายกอบจ.ตาก ลงสนาม เขต 3 อำเภอแม่สอด และที่ประจวบคีรีขันธ์ได้วางตัวนายณภัทร ชุ่มจิตตรี หรือ “คิง ก่อนบ่าย”เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 ในนามพรรคพลังประชารัฐ และจะทยอยเปิดตัวผู้สมัครจนครบทุกจังหวัด
“ขอให้ประชาชนเชื่อมั่น ในว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคมีความตั้งใจอาสา รับใช้พี่น้องประชาชน เชื่อว่า ผู้สมัครทุกคนของเราจะสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งได้ เรามีทุกกลุ่มคน ทุกภาคส่วนมาช่วยกัน ก้าวข้ามความขัดแย้ง ย้ำไม่มีแบ่งสี แบ่งเสื้อ แบ่งฝ่าย เราคนไทยด้วยกัน”