วันนี้ (9 พ.ย. 64) นางชลธิชา สันติภาจะนันทน์ ประมงจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย นายนิรันดร์ คำล้าน ปลัดอาวุโสรักษาราชการนายอำเภอชัยบาดาล พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบฟาร์มเลี้ยงจระเข้แห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี ที่มีพื้นที่กว่า 50 ไร่ มีบ่อเลี้ยงจระเข้ ทั้งหมด จำนวน 21 บ่อ มีจระเข้ทั้งขนาดพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไปถึงขนาดเล็กกว่าหมื่นตัว
โดยมีเจ้าของฟาร์ม และผู้จัดการฟาร์ม นำคณะตรวจภายในฟาร์มดังกล่าว หลังจากที่ชาวบ้านพบจระเข้และจับจระเข้ได้จำนวนหลายตัว ซึ่งด้านเจ้าของฟาร์มบอกว่า “ทางฟาร์มตนเองมีมาตรการความปลอดภัย ยืนยันว่าป้องกันจระเข้หลุดลอดออกจากฟาร์มได้ 100% บ่อทุกบ่อเป็นปูนซีเมนต์สูงกว่า 2 เมตร และเสริมตาข่ายคุมไว้ป้องกันทุกบ่อ จระเข้ที่ชาวบ้านพบหลุดออกไปบ่อยครั้งนั้นไม่ได้มาจากฟาร์มของตนเอง และที่ผ่านมาเคยมีชาวบ้านนำจระเข้มาขายแต่ไม่ได้รับซื้อไว้คาดว่าน่าจะมาจากผู้ที่ลักลอบเลี้ยงไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อโตขึ้นทนเลี้ยงไม่ไว้ก็เลยนำไปปล่อยให้พ้นภาระ”
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบรอบฟาร์มดังกล่าว ก็ไปพบกับจระเข้ขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตัว มีความยาวประมาณ 1 เมตร 20 ซม. นอนอาบแดดอย่างสบายใจบริเวณบนคันดินอยู่ภายนอกกำแพงปูนบ่อเลี้ยง เจ้าหน้าที่จึงได้จับมัดปากและตีนด้วยความระมัดระวังเพราะเจ้าจระเข้ได้ขู่และพุ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่และสื่อจนต้องหนี และอีก 1 ตัว ยาวประมาณ 2 เมตร หลบอยู่ในป่าพงหญ้าลำรางน้ำหลังแนวกำแพงบ่อเลี้ยงจระเข้ เมื่อจระเข้ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่เจ้าจระเข้ก็ได้หนีลงน้ำเข้าป่าพง ที่มีน้ำขังทำให้เจ้าหน้าที่ไม่กล้าลงไปจับ เพราะจระเข้มีอาการดุร้าย โดยเพราะตัวแรกที่จับได้เจ้าจระเข้แสดงอาการดุขู่และพุ่งใส่เจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวจนต้องถอยหนีออกห่าง
นอกจากนี้พื้นที่ดังกล่าวยังพบร่องรอยตีนจระเข้และร่องรอยจระเข้นอนอาบแดดอยู่ชายน้ำตลอดแนวคันดินหลังกำแพงยาวกว่า 300 เมตร จำนวนมาก และพบรอยดินยุบตัวหลายแห่งเป็นโพงคาดว่าจระเข้ที่หลุดออกไปได้จำนวนหลายตัวทำให้พบว่า จระเข้ที่นายสมศักดิ์ เคยปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ใช่จระเข้จากฟาร์มตนเอง ต้องยอมรับและจำนนด้วยหลักฐาน
สำหรับพื้นที่ด้านหลังฟาร์มเป็นพื้นที่ป่ารกเป็นแนวยาวกว่า 300 เมตร ติดกับสวนมะพร้าวของนายลำดวน มีร่องน้ำในสวนทำให้เป็นแหล่งน้ำที่จระเข้ที่หนีออกจากฟาร์ม โดยทางประมงจังหวัด พร้อมด้วยฝ่ายปกครองอำเภอชัยบาดาล จึงได้สั่งการให้ทางฟาร์มรีบดำเนินแก้ไขโดยด่วน พร้อมทั้งได้ให้ทางฟาร์มทำการกำจัดป่าพงให้โล่งออกเพื่อที่จะได้ตรวจสอบและจับจระเข้ที่ยังหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ให้หมด และให้ทางกำนันตำบลบัวชุม ประกาศแจ้งเตือนห้ามชาวบ้านเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากเป็นพื้นที่อันตรายให้ระมัดระวังอาจจะเกิดอันตรายได้เนื่องจากจระเข้เป็นสัตว์ดุร้ายและหากพบเจอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ประมง หรือฝ่ายปกครองทันที อย่าไปจับเองหรือทำร้ายเพราะจระเข้เป็นสัตว์คุ้มครองตามกฎหมาย