เหล่าคนนิยมรถมือสองต้องเสียวจนเหลียวหลัง เมื่ออ่านข่าวนี้
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพราะไม่รู้ว่าวันดีคืนร้าย ยามตื่นมาแล้วพบเจอแต่ความว่างเปล่า ไม่รู้ว่ารถตัวเองหายไปไหน
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 เปิดกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 แถลงจับคู่ผัวเมียสุดแสบ น.ส.ชุติกาญจน์ หรือ น.ส.ชนิดาภา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ชาวจ.ลพบุรี และนายตรัยรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ชาวจ.ชลบุรี
พร้อมของกลางประกอบด้วย รถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด สีขาว ทะเบียน ฌว 9655 กรุงเทพมหานคร เอกสารใบคู่มือจดทะเบียนฮอนด้าแอคคอร์ด เครื่องส่งสัญญาณจีพีเอ ส ติดตั้งอยู่ที่บริเวณที่เสียบกุญแจสตาร์ตรถยนต์ ซึ่งเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน 1 ขล 6837 กรุงเทพมหานคร
ผู้การอรรถพลเผยว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนสน.โคกคราม รับการแจ้งความร้องทุกข์จากน.ส.พนิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ผู้เสียหาย ให้ช่วยตามหารถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด ของกลาง ที่สูญหายไปไร้ร่องรอยจากที่จอดรถภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในซอยลาดปลาเค้า 52 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
ผู้เสียหายยืนยันว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 ก.พ. ขับรถเข้าไปจอดไว้ปิดล็อกอย่างดี แต่พอตื่นเช้าขึ้นมากลับไร้รถขับไปทำงานเสียแล้ว
พ. ต.อ.ศรีสันต์ เฟื่องสังข์ ผกก.สน.โคกคราม พ.ต.ท.สยมภู กุลจิตติสิโรดม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.กลยุทธ์ สอนทรัพย์ สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน นำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
แล้วก็ได้เบาะแสคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิดในคอนโดฯ ที่เกิดเหตุบันทึกไว้ได้
เป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งขับรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว จอดประกบรถผู้เสียหาย ก่อนใช้กุญแจไขเปิดประตูแล้วขับตามกันออกจาก คอนโดฯ ไปอย่างง่ายดาย
ทีมสืบสวนรีบแกะรอยเส้นทางหลบหนีของคนร้ายตามโครงการกล้องโทรทัศน์วงจรปิดไร้สายของตำรวจเองที่มีอยู่ทั่วกรุงเทพฯ มากถึง 9,138 ตัว ใน 5,606 จุด
ตามแนวคิดของ ‘บิ๊กปั๊ด’ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.
ภายใต้นิยาม ง่าย เร็ว และดี
เหมือน “ผัดกะเพรา” ฟาสต์ฟู้ดแบบไทยๆ
กระทั่งสืบทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ น.ส.ชุติกาญจน์ หรือ น.ส.ชนิดาภา ชาวจ.ลพบุรี และนายตรัยรัตน์ อายุ 52 ปี ชาวจ.ชลบุรี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การอนุมัติหมายจับที่ศาลอาญามีนบุรี ที่ 250/2565 ลงวันที่ 14 มี.ค. 2565 ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยร่วมกระทำ ความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
แค่วันเดียวหลังออกหมายจับ วันที่ 15 มี.ค. เจ้าหน้าที่ก็นำกำลังไปซุ่มจับน.ส. ชุติกาญจน์ที่หน้าบริษัทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พร้อมรถยนต์โตโยต้ายาริสที่ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ ก่อนคุมตัวไปตามจับนายตรัยรัตน์พร้อมรถยนต์ของ ผู้เสียหาย ที่บ้านพักใน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ก่อนคุมตัวกลับเข้ากรุงเทพฯ มาสอบปากคำอย่างละเอียด
ผู้ต้องหาทั้ง 2 รับสารภาพตลอดข้อ กล่าวหา โดยนายตรัยรัตน์อ้างว่า มีอาชีพรับจำนำรถ โดยรถฮอนด้า แอคคอร์ด ของกลางในคดีนี้ เป็นรถที่มีชายคนหนึ่งมาจำนำไว้ราคา 100,000 บาท เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ต่อมาชายคนดังกล่าวไม่มีเงินมาไถ่คืนจึงขอเอารถไปขาย เพื่อนำเงินมาให้พร้อมดอกเบี้ย แต่สุดท้ายเงียบหายไปไร้ร่องรอย ไม่ได้เงินคืนเลยสักบาท
แต่ช่วงที่รถอยู่ในครอบครองนั้น ได้ติดตั้งจีพีเอส และปั๊มกุญแจสำรองไว้ จึงชวน แฟนสาวแกะรอยตามสัญญาณจีพีเอสไปนำรถกลับคืนมา
แม้เจ้าตัวจะอ้างว่าเป็นการไปนำรถที่รับจำนำไว้กลับคืนมา แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ คาดว่าก่อเหตุมาแล้วนับไม่ถ้วน เนื่องจากในการตรวจค้นพบเล่มทะเบียนรถเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ตำรวจสน.โคกครามฝากแจ้งเตือนให้ประชาชนระวังมิจฉาชีพแฝงมากับผู้รับจำนำและเต็นท์มือสอง ที่อาจทำพฤติกรรมแบบเดียวกัน
สราวุฒิ ศรีเพ็ชรสัย
เรื่อง/ภาพ