คณะบุคคล-ปชช.ลงนามถวายพระพร ‘พระองค์ภาฯ’ ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร
ตามที่ สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวร โดยทรงเข้ารับการรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 และเปิดลงนามถวายพระพร ระหว่างเวลา 08.00-16.00 น. ณ ชั้น 1 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ไม่เว้นวันหยุดราชการนั้น
เมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีหน่วยงาน องค์กร คณะบุคคล และประชาชนจากทุกสารทิศ เดินทางมาลงนามถวายพระพรและนำแจกันดอกไม้มาถวาย เบื้องหน้าพระรูปสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เพื่อขอให้พระองค์มีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์โดยเร็ว อาทิ พลเรือโท วิจิตร ตันประภา เจ้ากรมกำลังพลทหารเรือ, นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน), นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย, สุภัทรา ดำรงค์ศักดิ์ ประธานสมาคม แม่บ้านทหารบกสาขาศูนย์สงครามพิเศษ จ.ลพบุรี และคณะแม่บ้าน ศูนย์สงครามพิเศษ (ศสพ.), ดร.จุฑาทอง จารุมิลินท ผู้อำนวยการมูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง, นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร, ผศ.ดร.ประภาภรณ์ ติวยานนท์ มงคลวนิช คณบดีวิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ บัญชา สำรวยรื่น คณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, ชัชนิต มุสิกไชย มหาคุณ ผู้แทนราชสกุลอรณพและราชสกุลศิรวงศ์ เป็นต้น
ขณะที่บรรยากาศประชาชนมาลงนามถวายพระพร หลายคนตั้งใจมาปักหลักเฝ้าถวายกำลังใจ อีกส่วนตั้งใจเดินทางมาลงนามถวายพระพรและเดินทางกลับ อย่าง นางสาววนิดา วงษาลาษ มาพร้อม นางรัตนา เหมวัน จากย่านลาดกระบัง กรุงเทพฯ กล่าวภายหลังลงนามถวายพระพรร่วมกันว่า ตั้งแต่รู้ข่าวว่าพระองค์ทรงพระประชวร ก็รู้สึกไม่สบายใจ จริงๆ อยากมาตั้งนานแล้ว แต่สะดวกมาวันนี้ ก็ขอถวายพระพรให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว และทรงมีพระพลานามัยแข็งเหมือนก่อน อย่างไรก็ตาม เราทั้งสองไม่เคยตามเฝ้ารับเสด็จพระองค์ภาและพระบรมวงศานุวงศ์เลย อาศัยติดตามข่าวผ่านข่าวในพระราชสำนักของทีวี และออนไลน์ต่างๆ ก็เป็นความมหัศจรรย์ว่ารู้สึกรักและผูกพันกับพระองค์อย่างมาก
“พวกเราเห็นพระองค์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ได้เห็นพระกรณียกิจ เห็นพระปรีชาสามารถหลากหลาย อย่างในบทบาทอัยการ อีกทั้งทรงช่วยเหลือประชาชนตกทุกข์ได้ยาก ผ่านโครงการเพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยาก สภากาชาดไทย ซึ่งพวกเราก็บริจาคสิ่งของช่วย และสนับสนุนผลิตภัณฑ์โครงการของทุกพระองค์อยู่ เรียกได้ว่าพวกเราติดตามพระองค์มาตลอดจน เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว และไม่คิดว่าจะรักพระองค์ได้ขนาดนี้” นางสาววนิดาและนางรัตนากล่าว