ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของ นายสุชาติ ชมกลิ่น อันสัมพันธ์กับจังหวะก้าวในทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา น่าสนใจ น่าติดตาม
เหมือนกับ นายสุชาติ ชมกลิ่น มีความชัดเจน เหมือนกับ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ยังไม่มีความชัดเจน
ที่ชัดเจนเพราะ นายสุชาติ ชมกลิ่น ประกาศอย่างเด็ดเดี่ยวมั่นคงว่าพร้อมที่จะเดินตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปยังพรรครวมไทยสร้างชาติ
ไม่เพียงประกาศอย่างเป็นคำมั่นสัญญาหากแต่ปรากฏแนวโน้มว่าในการเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่ 9 มกราคม ซุ้มของ นายสุชาติ ชมกลิ่น พร้อมอย่างเต็มเปี่ยมที่จะปรากฎตัวบนเวที ณ ศูนย์ประชุมสิริกิติ์
ยิ่ง นายสุชาติ ชมกลิ่น ชัดเจน ความไม่ชัดเจนของ นายธนา วุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ยิ่งกลายเป็นปัญหาในลักษณะที่สื่อทำเนียบ รัฐบาลสรุปฉายาว่า “วันทอง 2 ป.”
เพราะในตอนเช้าไปต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สิงห์บุรี แต่ตอนบ่ายไปเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ที่ลพบุรี
โดยที่เป็นผู้สมัคร ส.ส.ในสังกัดของพรรคพลังประชารัฐ
ต้องยอมรับว่าชื่อของ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น มีความสำคัญเป็นอย่างสูงในท่ามกลางการแยกแตกตัว จากพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ
เพราะ 2 คนนี้เป็น 4 รัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐที่เข้าห้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเดือนตุลาคม 2564
เป็นการเข้าห้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสันติ พร้อมพัฒน์ ภายหลังสถานการณ์แตกหักกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
จากจำนวน 4 รัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐมีเพียง นายสุชาติ ชมกลิ่น เท่านั้นที่แสดงท่าทีอย่างชัดเจน ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสันติ พร้อมพัฒน์ นายชัยวัฒน์ ธนาคมานุสรณ์ ยังไม่ชัดเจน
เพียงแต่โน้มเอียงจะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐมากกว่า
ภายใน 3 รัฐมนตรีที่ยังไม่ชัดเจน ล้วนดำรงอยู่ในตำแหน่งสำคัญตั้งแต่ประธานยุทธศาสตร์พรรค รองหัวหน้าพรรคและเลขาธิการ พรรค ทรงความหมายยิ่งต่อพรรคพลังประชารัฐ
หากมีความชัดเจนก็จะส่งผลสะเทือนทางการเมืองแน่นอน
เพียงแต่ผลสะเทือนนั้นจะเป็นผลดีกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุ วรรณ แห่งพรรคพลังประชารัฐ พรรคพลังประชารัฐ
หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ