ที่ลพบุรี เกิดเหตุสลดเด็กจมน้ำตายอีกแล้ว เด็กหญิงสองพี่น้องขี่จยย.ไฟฟ้าออกจากบ้านจะไปหาย่า น้องอายุ 7 ขวบเป็นคนขี่ พี่สาว 12 ขวบซ้อนท้าย เสียหลักชนกำแพงคอสะพานตกลงไปในคลองน้ำทั้งคนทั้งรถเสียชีวิตทั้งคู่ พบรอยครูดข้างคอสะพานคาดลืมเอาขาตั้งขึ้น น่าแปลก เพียงชั่วโมงเดียวศพลอยเหมือนอยากให้เจอ
วันที่ 21 ต.ค. ร.ต.อ.มาโนช ช้างพงษ์ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านกุ่ม อ.เมือง ลพบุรีได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพคนจมน้ำเสียชีวิต อยู่หน้าวัดญาณเสน หมู่ 10 ต.โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูลพบุรี ที่เกิดเหตุเป็นคอสะพานหน้าวัดญานเสน มีชาวบ้านยืนมุงดู พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นเด็กหญิง 1 ราย ลอยหงายหน้าอยู่ใกล้กับคอสะพาน ที่น้ำไหลเชี่ยววนกู้ภัยฯ จึงได้นำร่างขึ้นเมาเพื่อทำการชันสูตร ไม่นานได้มีนายขวัญชัย ศรีสินธุ์ อายุ 39 ปี พ่อ และญาติของเด็กเมื่อเห็นศพถึงกับทรุด พร้อมกับร้องคร่ำครวญปิ่มว่าจะขาดใจ ผู้เป็นย่าถึงกับเป็นลมล้มพับต้องทำการปฐมพยาบาลกันโกลาหล เผยว่า มีลูกเป็นเด็กหญิงวัย 7 ขวบ และ 12 ขวบ ขี่จักรยานยนต์ไฟฟ้า สีขาว 1 ออกมาจากบ้านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงได้ลงงมอีกครั้งจนพบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสีขาว จมอยู่ใกล้ศพ และพบร่าง ด.ญ. อีก 1 คน ห่างจากศพแรกประมาณ 5 เมตรท่ามกลางเสียงร้องระงมจากพ่อและญาติพี่น้อง
จากการสอบถามนายมานพ เนียมเพ็ง อายุ 55 ปี ผู้ที่พบศพเล่าว่าเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.ขณะเดินทางกลับมาจากธุระผ่านจุดดังกล่าว ได้เห็นศพลอยขึ้นมาจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนายมานพเล่าว่า ครั้งแรกพบเพียงร่าง ด.ญ.กิ่งกาญจน์ (น้องแยม) เพียงศพเดียว ไม่ทราบว่ายังมี ด.ญ.เกศกนก(น้องยิ้ม) และจักรยานยนต์ไฟฟ้าตกลงไปด้วย จนมาทราบทีหลังจากญาติว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน ขี่จักรยานยนต์ไฟฟ้าออกมาจากบ้านเวลา 07.10 น. และตกลงไปในแม่น้ำลพบุรี ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตได้เพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมงแต่ศพลอยได้อย่างไร จนเป็นที่กังขาของชาวบ้านย่านนี้
เช่นเดียวกันกับพระครูสันติญาณประยุต เจ้าคณะตำบลโก่งธนู เจ้าอาวาสวัดญาณเสน เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนพบศพเด็กหญิงทั้งสองคน มีญาติโยมมาแจ้งว่าท่อประปาของวัดตรงจุดเกิดเหตุแตก จึงได้ให้พระลูกวัดมาดู และทำการซ่อมแซม โดยไม่ทราบว่าเกิดอุบัติเหตุ เพิ่งทราบทีหลังว่าเกิดอุบัติเหตุตรงจุดนี้ เนื่องจากยังไม่มีคนเห็น เพราะเป็นคอสะพานทางแคบ จุดที่คนและรถตกก็กว้างประมาณไม่เกิน 50 ซม.เท่านั้น ที่น่าสงสัยก็คือทำไมศพจึงได้ลอยน้ำขึ้นมาเร็ว ซึ่งอาจเป็นเพราะต้องการให้คนพบร่างก็ได้ (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล) ขอให้หนูน้อยทั้งสองไปสู่ภพภูมิที่ดี ซึ่งหลวงพ่อยังกล่าวด้วยว่าเมื่อไม่นานมีผู้ชายมาผูกคอตายที่ศาลาท่าน้ำใกล้กับจุดเกิดเหตุ
ทางด้านพนักงานสอบสวนเผยว่า จากการสอบถามพ่อแม่และญาติของ ด.ญ.ทั้งสองราย เล่าว่า ช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ ด.ญ.เกศกนก (น้องยิ้ม) วัย 7 ขวบ เป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าคันดังกล่าวออกจากบ้านโดยมี ด.ญ.กิ่งกาญจน์ (น้องแยม) พี่สาว อายุ 12 ขวบ ซ้อนออกมาจากบ้านเพื่อที่จะไปบ้านย่า ที่อยู่อีกฝั่งแม่น้ำประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งจากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ มีรอยครูดข้างคอสะพาน ซึ่งอาจเป็นขาตั้งรถที่ไม่ได้เอาขึ้นจนรถเสียหลัก จุดเกิดเหตุเป็นทางโค้งประกอบกับมีกรวดทรายอยู่เป็นจำนวนมาก อาจทำให้ลื่นเสียหลักชนกับกำแพงได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่ทั้งรถทั้งคนจะทะลุลอดช่องคอสะพานตกลงไปในแม่น้ำ โดยนำศพส่งให้แพทย์ รพ.พระนารายณ์ทำการชันสูตรในเบื้องต้น และจะไปให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์รังสิต ผ่าพิสูจน์อีกครั้งตามคำขอร้องของญาติ
นางจุฑามาศ พงศ์ทองอายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ที่ 13 ต.โก่งธนู อ.เมือง ลพบุรี แม่ของ น้องยิ้มน้องแย้ม กล่าวถึงก่อนเกิดเหตุสลด มีสัญญาณลางร้ายก่อนลูกสาวทั้ง 2 คน จะเสียชีวิตว่า ช่วงเกิดเหตุตนได้ออกจากบ้านไปประมาณ 06.00 น. ก่อนไปทำงานยังหอมแก้มน้องยิ้มด้วย โดยทำงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่ง ใน จ.สิงห์บุรี ขณะนั่งอยู่บนรถบัสโรงงาน น้องยิ้มยังโทรหาและไลฟ์สด ทำหน้าตาตลก ๆ ให้แม่ดูด้วยไม่คิดว่าลูกทั้ง 2 คน จะจากไปกะทันหันแบบนี้ ยังทำใจไม่ได้ นางจุฑามาศกล่าวอีกว่า กลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมาน้องยิ้มลูกสาวคนเล็ก ได้นอนอยู่กับตน ส่วนน้องแย้มพี่สาวนอนอยู่กับยาย จนกระทั่งตอนเที่ยงคืนเศษ ขณะที่ทุกคนหลับกันอยู่ ๆ จู่ๆ น้องยิ้มร้องไห้จ้าขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ตนเองจึงปลุกลูกสาวตื่นมาปลอบใจ หลังจากนั้นก็หลับต่อ ต่อมาอีกตอนเวลาประมาณตี 2 โทรทัศน์ ที่ตั้งอยู่กลางบ้านได้ติดขึ้นมาเองทั้งๆ ที่คนในบ้านหลับกันหมดแล้ว สร้างความตกใจตื่นกันทั้งบ้าน โดยไม่คิดว่าเป็นลางร้าย