22 ต.ค. 2565 | 05:50:39
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 21 ตุลาคม 2565
>> ปคบ. รวบหนุ่มโพสต์โชว์ปืนลงเฟซบุ๊ก พร้อมของกลางเพียบ
07.30 น. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค บก.ปคบ. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ปคบ. ร่วมกันจับกุม นายเทวัญ เทพพารักษ์ อายุ 36 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืน ยี่ห้อ SMITH&WESSON, พร้อมกระสุนปืนหลายชนิดรวม 50 นัด แม็กกาซีน จำนวน 1 อัน
สืบเนื่องจากชุดสืบสวนได้สืบทราบว่าเฟซบุ๊ก ชื่อ Tawan Tappaluk มีการโพสต์ภาพอาวุธปืนในเฟซบุ๊กส่วนตัว จำนวนหลายครั้ง จากการตรวจสอบพบว่าบุคคลดังกล่าว ไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนและขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดธัญบุรี นำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> ภูเก็ต ออกคำสั่งห้ามใช้ กรณีอาคารทรุดตัวกลางดึก ชี้หากซ่อมแซมไม่ได้ เตรียมสั่งรื้อถอน
08.00 น. นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รอง ผวจ.ภูเก็ต พร้อมด้วยนายนครินทร์ ยอแสงรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎาและเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องตรวจสอบบริเวณพื้นที่โดยรอบ ตลอดจนตัวอาคารที่ทรุดตัวพังถล่มลงมาเสียหายเป็นวงกว้าง
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า พื้นดินแนวราบเกิดการยุบตัว เนื่องจากฝนที่ตกต่อเนื่อง 2 วัน ทำให้ดินอ่อนตัว โดยสภาพตึกที่เอียงและลงมากดทับอาคารที่อยู่ด้านหน้า ซึ่งได้มีการอพยพอยู่ที่อยู่อาศัยราว 10 คนออกไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จากนี้ขั้นตอนต่อไปคือ จะใช้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 กำหนดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลขั้นตอนการอนุญาตการก่อสร้างอาคาร โดยอันดับแรกจะออกคำสั่งห้ามใช้อาคารดังกล่าว เพื่อจะเริ่มตรวจสอบอาคาร และถ้าไม่สามารถที่จะซ่อมแซมได้จะสั่งให้มีการรื้อถอน ซึ่งจะมีการกำหนดพื้นที่ห้ามเข้าก่อน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
ด้านนายนครินทร์ กล่าวว่า เรื่องการก่อสร้างอาคารดังกล่าว ตลอดจนการทรุดตัวจนพังเสียหายคงต้องถามด้านวิศวกร เพื่อได้ข้อมูลที่แท้จริง ส่วนทางเทศบาลตำบลรัษฎานั้น เบื้องต้นเราจะออกหนังสือแจ้งต่อเจ้าของอาคาร เพื่อทำการรื้อถอนทั้งหมด ส่วนมาตรการในการเยียวยาผู้พักอาศัยนั้น เทศบาลมีมาตรการอยู่แล้ว แต่ที่ทราบเจ้าของอาคารดูแลลูกบ้านดีอยู่แล้ว โดยให้ผู้พักอาศัยย้ายไปพักที่โรงแรมใกล้เคียง แต่ถ้าเทศบาลเข้ามาดูแลอาจได้ไม่เท่ากับที่เจ้าของอาคารดูแล ส่วนการรื้อถอนอาคารจะทำหนังสือให้เจ้าของรื้อถอนอาคารทันที ส่วนจะแล้วเสร็จเมื่อใดนั้น ทุกอย่างจะต้องดูในเรื่องความพร้อมและให้เวลา ปกติจะมีเวลา 30 วัน
>> ปภ.เผยมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่รวม 31 จังหวัด
11.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลของร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักต่อเนื่องและฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่
โดยในช่วงวันที่ 16 – 21 ต.ค. 65 ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา สตูล กระบี่ สงขลา และตรัง รวม 21 อำเภอ 63 ตำบล 249 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,953 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัด รวม 7 อำเภอ 15 ตำบล 73 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,739 ครัวเรือน
>> คนร้ายลอบกดระเบิด ทหารพรานนราธิวาส บาดเจ็บ 5 นาย
11.20 น. สภ.จะแนะ ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4905 บนถนนสาย 4217 บริเวณคอสะพานข้ามแม่น้ำสายบุรี บ.ไอร์ซือเร๊ะ ม.3 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 5 นาย และรถยนต์ได้รับความเสียหาย
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพส่วนหน้าได้รับความเสียหายอย่างหนัก จนไม่สามารถใช้งานได้ จอดอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 10 เมตร โดยมีหลุมระเบิดลึก 1 เมตร กว้าง 2 เมตร เศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก 25 กก. ที่ลากสายไฟฟ้ายาวเข้าไปในป่ารกทึบ และซากเศษชิ้นส่วนของรถกระบะตกกระจายไปทั่วบริเวณ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บได้นำตัวส่งรักษาที่ รพ.จะแนะ เพื่อทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ก่อนส่งตัวรักษาต่อที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ จำนวนทั้ง 5 นาย ทราบชื่อ
1.จ.ส.อ.ประเสริฐ โกมุทกลาง บาดเจ็บที่ศีรษะ รู้สึกตัวดี
2.อส.ทพ.เกียรติศักดิ์ บำเพิงพล เศษกระจกโดนที่ใบหน้าหูอื้อ บาดเจ็บเล็กน้อย
3.อส.ทพ.ทวีชัย หอมอุทัย เศษกระจกโดนที่ใบหน้าหูอื้อ บาดเจ็บเล็กน้อย
4.อส.ทพ.อัสมาวี ยอดแก้ว หูอื้อ บาดเจ็บเล็กน้อย
5.อส.ทพ.วัชรินทร์ สิทธิน้อย หูอื้อ บาดเจ็บเล็กน้อย
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเจ้าหน้าที่กำลังเดินทางกลับที่ตั้งฐาน เมื่อถึงจุดเกิดเหตุห่างจากฐานประมาณ 2 กม. ได้ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ก่อนกดชนวนระเบิดขึ้น ส่วนสาเหตุเชื่อว่า เป็นฝีมือของสมาชิกแนวร่วมผู้ก่อเหตุรุนแรง เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน
>> ในหลวง โปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐินให้ กรมการปกครอง นำไปถวาย ณ วัดสิริจันทรนิมิตรวรวิหาร จ.ลพบุรี
14.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน ประจำปี 2565 ให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย นำไปถวายแด่พระสงฆ์จำพรรษา ณ วัดสิริจันทรนิมิตรวรวิหาร (วัดเขาพระงาม) อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี
โดยมี นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วย นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี คณะผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ของกรมการปกครอง ตลอดจนพุทธศาสนิกชนและผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมพิธี โดยมี พระศรีวรคุณ (ถวิล วรคุโณ ป.ธ.7) เจ้าอาวาสวัดสิริจันทรนิมิตรวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ สำหรับพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานครั้งนี้ มียอดเงินถวายพระราชกุศล จำนวนทั้งสิ้น 2,400,520 บาท (สองล้านสี่แสนห้าร้อยยี่สิบบาทถ้วน)
นอกจากนี้ กรมการปกครองได้มอบทุนการศึกษา และเงินบำรุงโรงเรียนให้กับสถานศึกษาในอุปการะของวัดสิริจันทรนิมิตรวรวิหาร จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนวัดสิริจันทรนิมิตร (ประกิจประชานุกูล) โรงเรียนศูนย์การบินทหารบกอุปถัมภ์ โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเขาพระงาม โรงเรียนโคกกระเทียมวิทยาลัย ทั้งนี้ ได้ปฏิบัติตามแนวทางการถวายผ้าพระกฐินพระราชทานของกรมการศาสนา และเป็นไปตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัด
>> จำคุก 192 ปี 6 เดือน อดีต ผอ.โรงเรียนฯ ทุจริตอาหารกลางวันเด็กอนุบาล
15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 จ.นครศรีธรรมราช อ่านคำพิพากษา คดีทุจริตอาหารกลางวันนักเรียนอนุบาล ที่พนักงานอัยการคดีปราบปรามการทุจริตภาค 8 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ อดีต ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นจำเลย ในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ กรณีเด็กนักโรงเรียนชั้นอนุบาล รร.บ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ทานอาหารกลางวันที่ทางโรงเรียนจัดให้ แต่กลับปรากฎว่าในจานมีเพียงเส้นขนมจีนเปล่าคลุกกับน้ำปลา และไม่มีอาหารอื่นๆ อีกเลย โดยจำเลยให้การรับสารภาพ
ทั้งนี้ ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดจริงหลายกรรมต่างกัน จึงให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด รวม 77กระทง ให้จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 385 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกกระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 192 ปี 6 เดือน เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุก 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3)
>> กระบะ พุ่งชนคนงานซ่อมผิวจราจรดับ 3 คน กลางแยกกระโสม 2 ถนนเพชรเกษม
15.36 น. รับเเจ้งจากหน่วยกู้ภัยวัดเก่าเจริญธรรม เกิดอุบัติเหตุ ถนนเพชรเกษม เส้นทางเมืองพังงา-ตะกั่วทุ่ง บริเวณแยกกระโสม 2 ตำบลกระโสม อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา
โดยที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ ฟอร์ด แรนเจอร์ สีทอง ทะเบียน พังงา ลักษณะเฉี่ยวชนคนงานซ่อมผิวการจราจร และรถกระบะ อีซูซุ สีน้ำเงิน ทะเบียน พังงา ความรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุชาย 2 คน และบาดเจ็บสาหัสเป็นชายอีก 2 ราย อาสากู้ชีพ-กู้ภัยให้การช่วยเหลือและนำส่ง รพ.พังงา และรับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มในเวลาต่อมาอีก 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวรวม 3 คน และเจ็บ 1 ราย ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วทุ่ง
>> รถชนกันกลางแยก บนถนนเส้นทางดอนเจดีย์-สระกระโจม บาดเจ็บ 1 และเสียชีวิตหญิง 2 ราย
16.30 น. รับแจ้งจาก อาสาสมัครมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี เขตอำเภอดอนเจดีย์ มีอุบัติเหตุ บนถนนหมายเลข 3264 เส้นทาง ดอนเจดีย์-สระกระโจม บริเวณใกล้เคียงแยกผู้ใหญ่ชัย ตำบลสระกระโจม อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี
โดยที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล มิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน กทม. ชนกับรถยนต์อเนกประสงค์ มิตซูบิชิ สตราด้า จี-วากอน สีขาว ทะเบียน กทม.
ความรุนแรงทำให้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย อาสากู้ภัยช่วยเหลือและนำส่ง รพ.ดอนเจดีย์ ส่วนในจุดเกิดเหตุพบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง 2 คน ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนเจดีย์
>> อุตุฯ เตือน 18 จังหวัดใต้-กลาง-ตะวันออก เจอฝนถล่ม
17.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมทะเลอันดามันตอนกลาง ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากโดยเฉพาะพื้นที่ ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 22 ต.ค.65
สำหรับบริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่มีลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ไว้ด้วย
>> ระทึก ไฟไหม้ห้องเก็บอุปกรณ์ฯ เสียหายวอดทั้งห้อง
21.10 น. สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้ภายในอาคาร ใกล้เคียงหอพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.5 ค.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ความสูง 4 ชั้นปลูกติดกัน 14 คูหา ห้องต้นเพลิงเลขที่ 62/13 ซึ่งเป็นห้องเก็บอุปกรณ์การสอน เช่น โปรแจ็คเตอร์ เครื่องปริ้นเตอร์ หนังสือ และกระดาษ กำลังถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง
เจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงเทศบาลเมืองคลองหลวงจำนวน 4 คัน และพลเมืองดี ช่วยกันใช้น้ำฉีดเข้าสกัดไฟ เพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังห้องข้างเคียง จนสามารถควบคุมและเพลิงสงบในเวลาต่อมา ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้
>> รถกระบะข้ามเกาะพุ่งชนรถเก๋งฝั่งตรงข้าม บาดเจ็บ 3 และเสียชีวิต 1 คน
22.45 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร เกิดอุบัติเหตุ ถนนเศรษฐกิจ ฝั่งขามุ่งหน้ามหาชัย บริเวณตรงข้ามกับวัดคลองครุ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
โดยที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีดำ ทะเบียน กทม. ลักษณะเสียหลักข้ามเกาะกลาง พุ่งชนกับรถนั่งส่วนบุคคล โตโยต้า ยารีส สีขาว ทะเบียน กทม. แล้วเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ทะเบียน นครนายก
ตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บรวม 3 ราย อาสากู้ชีพ-กู้ภัยให้การช่วยเหลือและนำส่ง รพ.วิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล สมุทรสาคร จำนวน 2 ราย และส่ง รพ.สมุทรสาคร จำนวน 1 ราย ส่วนในจุดเกิดเเหตุพบผู้เสียชีวิต 1 คนภายในรถเก๋งสีขาว ตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อต่อมา นาย สิน อายุประมาณ 27 ปี ในของส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร
>> สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก วันที่ 22 ตุลาคม 2565 เวลา 05.00 น.
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกจำนวน 632,308,017 ราย รักษาอาการดีขึ้น 611,093,930 ราย เเละเสียชีวิตสะสม 6,580,783 ราย
1. ประเทศ สหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 99,046,769 ราย เสียชีวิต 1,092,516 คน (เพิ่มขึ้น 107 คน)
2. ประเทศ อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 44,639,797 ราย เสียชีวิต 528,953 คน (เพิ่มขึ้น 10 คน)
3. ประเทศ ฝรั่งเศส ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 36,524,605 ราย เสียชีวิต 156,337 คน (เพิ่มขึ้น 81 คน)
4. ประเทศ เยอรมนี ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 35,098,062 ราย เสียชีวิต 152,278 คน (เพิ่มขึ้น 178 คน)
5. ประเทศ บราซิล ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 34,818,774 ราย เสียชีวิต 687,544 คน (เพิ่มขึ้น 66 คน)
Share this: